หลังพบอาการติดเชื้อ-หวังยื้อชีวิต หมอผ่าปอดซ้ายอีกเพื่อห้ามเลือด
หมอแถลงอาการ “ปอ-ทฤษฎี” ฉบับ 14 ยืนยัน จำเป็นต้องตัดขาซ้ายระดับเหนือข้อเท้า เพื่อควบคุมการติดเชื้อรุนแรง และต้องผ่าตัดหยุดเลือดในช่องปอดด้านซ้ายหลังมีปัญหาตกเลือดซ้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด ขณะที่อาการโดยรวมยังทรงตัว แต่ต้องได้รับการเฝ้าระวังใน ห้องซีซียูต่อไป ด้านพ่อแม่ “ปอ-ทฤษฎี” ระบุ ลูกชายหน้าตาสดใสมากขึ้น แม้อาการยังไม่พ้นภาวะวิกฤติ ส่วน “ปิน” น้องชายคนเล็กเผยช่วงพี่สะใภ้เช็ดตัวให้พี่ชายมีการขยับตัวบ้าง ซึ่งไม่แน่ใจเกิดจากอะไร แต่แค่นี้ทุกคนก็มีความหวังและความสุขขึ้น
ความคืบหน้าอาการป่วยเป็นไข้เลือดออกของพระเอกดัง ปอ-ทฤษฎี สหวงษ์ ที่ยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่หออภิบาลผู้ป่วยวิกฤติโรคหัวใจ (CCU) ชั้น 9 อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มาตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 22 พ.ย. บรรดาเหล่าแฟนคลับพระเอกหนุ่มต่างพากันเดินทางมาสอบถามอาการป่วยของปอ-ทฤษฎี สหวงษ์ อยู่เป็นระยะ ขณะเดียวกัน นายสงวน นางพิสมัย สหวงษ์ พ่อและแม่ พร้อมด้วยนายวิทวัส หรือป๊อบปี้ นายชวนันท์ หรือปิน สหวงษ์ น้องชาย และนางแวนด้า หรือโบว์ สหวงษ์ ภรรยาปอ พร้อมด้วยนายน้ำอ้อย ศรมนตรา ผู้จัดการส่วนตัวปอ คอยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด
แต่แม้ตลอดวัน ครอบครัวสหวงษ์ ทั้งนายสงวน พ่อของพระเอกหนุ่ม จะออกมากล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า อาการลูกชายตอนนี้ดีขึ้นมาก ใบหน้าสดใส เช่นเดียวกับนางพิสมัย แม่ของปอ ก็กล่าวว่า ปอมีอาการดีขึ้น วันนี้ไม่ได้ไปทำบุญที่ไหน จะเฝ้าอาการปออยู่ที่โรงพยาบาล ขณะที่นายชวนันท์ หรือ ปิน น้องชายคนเล็ก กล่าวด้วยใบหน้าสดใสว่า เมื่อเช้าเข้าไปดูพี่ชายในห้องซีซียู พี่ปอมีสีหน้าที่สดใส ส่วนกรณีที่สามารถขยับตัวได้นั้น ตนไม่ทราบว่า เกิดจากปฏิกิริยารีเฟล็กหรือเกิดจากยา และยังย้ำว่าช่วงพี่โบว์ ภรรยา เข้าไปดูแลและเช็ดตัวทำความสะอาดร่างกายให้พี่ปอ สังเกตเห็นว่า พี่ปอมีการขยับตัว แต่ก็ไม่แน่ใจว่า ขยับเพราะฤทธิ์ยาหรือปฏิกิริยาตอบสนอง อย่างไรก็ตาม ทำให้ครอบครัวมีความหวังและมีความสุขขึ้นมา
ขณะที่ในช่วงบ่าย แพทย์ยังนำตัวปอลงไปตรวจร่างกายและเอกซเรย์ โดย ศ.นพ.วินิต พัวประดิษฐ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวในเวลาต่อมาว่า อาการปอขณะนี้ยังวิกฤติอยู่ ต้องเฝ้าดูอาการตลอด 24 ชั่วโมง และผู้ป่วยยังคงนอนรักษาตัวอยู่ในห้องซีซียู ชั้น 9 เหมือนเดิม ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปไหน
กระทั่งเวลา 18.30 น. วันเดียวกันคณะแพทย์ ได้ออกประกาศเรื่อง ชี้แจงอาการป่วยของนายทฤษฎี สหวงษ์ (ปอ) ฉบับที่ 14 ระบุว่า ในคืนของวันที่ 20 พ.ย.2558 ผู้ป่วยมีความดันเลือดที่ควบคุมได้ยากจากภาวะติดเชื้อที่เท้าซ้าย จำเป็นต้องตัดขาซ้ายระดับเหนือข้อเท้า เพื่อควบคุมการติดเชื้อรุนแรงเมื่อวันที่ 21 พ.ย.2558 และมีปัญหาตกเลือดซ้ำ ในช่องเยื่อหุ้มปอดด้านซ้าย จำเป็นต้องผ่าตัดหยุดเลือดในช่องปอดด้านซ้ายในคืนวันเดียวกัน อาการของผู้ป่วยวันนี้ ความดันเลือดควบคุมได้ดี การตอบสนองของม่านตายังปกติ การทำงานของตับและภาวะไตวายเฉียบพลันคงที่ ยังต้องใช้ยาคลายกล้ามเนื้อ เพื่อให้เครื่องช่วยหายใจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็มที่แก่ผู้ป่วย จึงไม่สามารถประเมินการรับรู้ของผู้ป่วยได้ อาการแทรกซ้อนที่มีเลือดออกในช่องทางเดินอาหารน้อยลง ขณะนี้ยังต้องได้รับการรักษาด้วยยากระตุ้นความดัน ยาปฏิชีวนะ สายอาหารทางหลอดเลือดดำและทางสายยาง การฟอกเลือดต่อเนื่อง และยังต้องให้เลือดและส่วนประกอบของเลือดเป็นระยะ โดยสรุปขณะนี้ตรวจไม่พบเชื้อไข้เลือดออกในตัวผู้ป่วย แต่ยังต้องรักษาภาวะแทรกซ้อนที่วิกฤติ อันเกิดจากโรคไข้เลือดออกและยังต้องได้รับเฝ้าระวังในห้อง CCU ต่อไป หากมีการเปลี่ยนแปลงของอาการทางคลินิกอย่างมีนัยสำคัญ ทางโรงพยาบาลจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากกรณีที่เมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา มีสาวพยายามบุกเข้าไปในห้องซีซียู ชั้น 9 ที่พระเอกหนุ่มนอนรักษาตัวอยู่ โดยอ้างนำวิญญาณปอที่ออกจากร่างมาส่ง แต่ รปภ.ไม่อนุญาต และหญิงคนดังกล่าวพยายามจะทำร้าย รปภ.นั้น ทำให้ในช่วงเที่ยงวันที่ 22 พ.ย. แอดมินแฟนเพจ “ปอ ทฤษฎี แฟนคลับ” โพสต์ข้อความข้อความกรุณา ผู้วิเศษทั้งหลายอย่าได้รบกวนพี่ปอและคณะแพทย์เลย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจาก รพ.รามาธิบดี ออกประกาศเรื่องชี้แจงอาการป่วยของนายทฤษฎี สหวงษ์ (ปอ) ฉบับที่ 14 ออกมาได้ไม่นาน ในอินสตาแกรมของพระเอกหนุ่ม ก็มีแฟนคลับแห่เข้าไปโพสต์ข้อความให้กำลังใจอย่างล้นหลาม โดยต่างระบุคล้ายๆ กันคือ ขอให้พี่ปอสู้ๆ และยืนยันจะเป็นกำลังใจให้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็จะอยู่เคียงข้างครอบครัว น้องโบว์และน้องมะลิ รวมถึงอาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้คุ้มครองปอ และครอบครัวปอทุกคน ขณะที่บางรายระบุว่ารู้สึกสงสาร แต่ตัดข้อเท้าเพื่อรักษาชีวิตไว้แล้ว ก็ขอให้พระเอกหนุ่มเข้มแข็ง และตื่นมาได้แล้วเพื่อสู้ต่อไป และจะเป็นกำลังใจให้ครอบครัวและทุกคน รวมถึงขอให้ปอหายป่วยไวๆ ฯลฯ
ต่อมาเวลา 19.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายน้ำอ้อย ศรมนตรา ผู้จัดการ ปอ-ทฤษฎี ถึงกรณีที่พระเอกหนุ่มต้องถูกตัดเท้าซ้ายว่า ตอนนี้ครอบครัว มีความรู้สึกเสียใจเท่ากัน และกำลังทำใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่มีใครต้องการให้เกิดเช่นนั้น แต่เพื่อต้องการรักษาชีวิตปอไว้ จึงจำเป็นต้องตัดข้อเท้าดังกล่าว
ขณะที่บรรยากาศที่ รพ.รามาธิบดี ที่มีแฟนคลับของปอจำนวนหนึ่ง ยังคงปักหลักเฝ้าอาการพระเอกดัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังทราบประกาศ ฉบับที่ 14 ของ รพ.รามาฯ แฟนคลับถึงกับรู้สึกช็อกกับข่าวดังกล่าว โดย น.ส.อรนุช ขันติพะโล อายุ 40 ปี ชาว จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ตลอดวันมีข่าวลือว่าแพทย์ต้องตัดขาปอ แต่ตนไม่เชื่อ เพราะยังไม่เห็นแพทย์ออกมาชี้แจง กระทั่ง เวลา 18.00 น. โรงพยาบาลรามาฯแถลงอาการตัดเท้าซ้าย และผ่าตัดหยุดเลือดในช่องปอดด้านซ้าย ทำให้ รู้สึกตกใจมาก ไม่เชื่อกับข่าวนั้น กระทั่งได้เห็นใบแถลงอาการป่วยของปอกับตาตัวเอง ทำให้รู้สึกใจหาย ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นได้ และรู้สึกเป็นห่วงถึงอนาคต เกรง ว่ามีผลต่อการงานในวงการบันเทิง แต่เพื่อรักษาชีวิตไว้การตัดเท้าซ้าย ถือว่าเป็นทางออกที่ดี จึงต้องยอมรับให้ได้ อย่างไรก็ตาม ขอให้เป็นกำลังใจกับครอบครัวปอ ให้หายป่วยเร็วๆนี้ แม้ปอจะเป็นอย่างไร แฟนคลับทุกคนยังรักเสมอ
ต่อมาเวลา 20.00 น. นายสงวน พ่อของปอออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยกล่าวเพียงสั้นๆด้วยน้ำเสียงสั่นว่า ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ ส่วนอาการของปอเป็นไปตามทุกอย่างที่ทางคณะแพทย์โรงพยาบาลรามาฯได้ประกาศให้ทราบแล้ว ซึ่งมีความจำเป็นที่แพทย์ต้องพิจารณาแบบนั้น ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นหนึ่งขบวนการในการรักษาใช่หรือไม่ พ่อพระเอกหนุ่มตอบว่า ถือว่าเป็นที่สุดแล้วที่จะต้องทำเช่นนั้น
Microsoft เผยผลสำรวจ 10 อาชีพในอนาคตที่ผู้บริหารกลัวขาดคนในยุค AI
Bitkub HODL Day: สร้างวัฒนธรรมองค์กรอย่างสร้างสรรค์ ผ่านกีฬาสีที่ไม่เหมือนใครในแบบฉบับ “บิทคับ กรุ๊ป”
Orchidjobs บริการสรรหาพนักงานครบวงจร
สภาพัฒน์ฯ เผยผลสำรวจผู้บริหาร 74% ไม่จ้างพนักงานไร้ทักษะ AI ปัจจุบันคนไทยว่างงาน-หนี้เกินตัว ใช้โซเชียลกู้ยืมนอกระบบ
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด 
